รีวิว Severance ss2 

หลังจากผ่านซีซั่นแรกไป นี่คือซีรีส์ที่พิลึกพิลั่นและแปลกประหลาดที่สุดเท่าที่เคยรับชมมาอย่างไม่ต้องสงสัย กระนั้น ความประหลาดที่ผู้ชมได้สัมผัสมาแล้วในซีซั่นแรกกลับดูเป็นเพียงจุดเริ่มต้น เมื่อซีซั่นที่สองนี้ได้ทั้งเฉลยปริศนาและเพิ่มความประหลาดดั้งเดิมให้ทวีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ที่ยังคงรักษาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม และผู้ชมที่ผ่านการรับชมซีซั่นแรกมาแล้วก็น่าจะพร้อมจะดำดิ่งต่อไปกับความแปลกประหลาดนี้เช่นกัน รีวิวซีรี่ย์มาใหม่

ในตอนเริ่มเรื่อง มาร์คได้พบกับลูกทีมคนใหม่ แต่บุคคลเหล่านี้เป็นเพียงตัวละครประกอบที่ปรากฏในเวลาอันสั้น เนื่องจากไม่นานนักเขาก็ได้ร่วมงานกับทีมเดิมอีกครั้ง ซึ่งบทซีรีส์สร้างเหตุผลรองรับการกลับมาทำงานของทุกคนได้อย่างแนบเนียน โดยนำเสนอเรื่องราวของ “คนนอก” ของตัวละครแต่ละคนที่ได้รับผลกระทบจาก “คนใน” ที่ถูกเปิดเผยในตอนท้ายของซีซั่น 1 ซีรีส์เปิดโอกาสให้ผู้ชมได้สำรวจอีกด้านหนึ่งของชีวิตตัวละครอย่างลึกซึ้ง เผยให้เห็นว่าพวกเขาแตกต่างจาก “คนใน” มากเพียงใด อีกทั้งยังช่วยให้ซีรีส์มีโอกาสขยายขอบเขตการเล่าเรื่องออกไปสู่โลกภายนอกมากกว่าที่จะจำกัดอยู่เพียงในพื้นที่เดิมดังเช่นในซีซั่นแรก ส่งผลให้เรื่องราวมีความสนุกสนานมากขึ้น เมื่อ “คนนอก” และ “คนใน” ได้มีปฏิสัมพันธ์กันในรูปแบบที่แตกต่าง แม้จะเป็นการเชื่อมโยงโดยอ้อม แต่ก็เป็นแนวคิดที่ไม่มีซีรีส์เรื่องใดนำเสนอได้อย่างลงตัวเช่นนี้ ดังเช่นประเด็นที่การกลายเป็นกิ๊กกับภรรยาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

ซีรีส์นำเสนอความแปลกประหลาดของการแยกความทรงจำที่ลึกซึ้งกว่าในซีซั่นแรก เมื่อเราได้พบว่ามันไม่ได้มีเพียงสองบุคลิกภาพแต่อาจมีได้นับไม่ถ้วน แม้ว่าเรื่องราวจะไม่เปิดเผยความลับทั้งหมดของลูมอน แต่ก็พอจะคาดเดาได้ว่าสิ่งที่บริษัทกำลังดำเนินการนั้นเป็นการปฏิวัติโลกอย่างที่พวกเขาคาดหวังไว้จริงๆ เพียงแต่ว่าวิธีการของลูมอนเปรียบเสมือนคุกที่แยกขังจิตใจแต่ละส่วนของบุคคล ซึ่งแม้ “คนนอก” จะยินยอมผ่านสัญญาการทำงาน แต่ก็เป็นเรื่องที่ขัดต่อหลักจริยธรรม ซีรีส์นำเสนอแนวคิดเรื่องความเป็นปัจเจกบุคคลได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะผ่านตัวละครมาร์คที่พยายามรวมสองโลก (หรือรวมความทรงจำ) บางส่วนเข้าด้วยกัน แต่เมื่อทั้งสองบุคลิกได้ล่วงรู้ถึงความต้องการของอีกฝ่าย พวกเขากลับกลายเป็นคนละคนที่มีแนวทางชีวิตแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง