Dear Hongrang เป็นผลงานซีรีส์ออริจินัลเรื่องถัดไปของเน็ตฟลิกซ์จากฝั่งเกาหลี ที่ได้พระเอกหนุ่มมาดเท่ “อีแจงอุค” มาประกบคู่กับนางเอกรุ่นพี่ “โจโบอา” ที่หยิบเอาบทประพันธ์ชื่อดังของนักเขียน จางดาฮเย มาดัดแปลงสร้าง จากฝีมือของนักเขียน “คิมจินอา” (จากซีรีส์ Dr. Brain)พร้อมกับได้ผู้กำกับ “คิมฮงซอน” (จากซีรีส์ Money Heist: Korea) มารังสรรค์งานชิ้นนี้ให้ ซีรีส์ว่าด้วยเรื่องราวของ ฮงรัง ลูกชายของหัวหน้าสมาคมพ่อค้าแห่งโชซอนผู้มั่งคั่ง ที่ได้หายสาบสูญไปตั้งแต่เขาอายุได้ 8 ขวบ กระทั่งเวลาผ่านมาหลายปี ฮงรังได้ปรากฏตัวอีกครั้งในวัยหนุ่ม กับความทรงจำในวัยเด็กที่หายไปแทบทั้งหมด นั่นทำให้ แจอี พี่สาวต่างเชื้อที่สนิทชิดเชื้อกับเขาตอนเด็ก ๆ รู้สึกแคลงใจในหลาย ๆ อย่างในการปรากฏตัวอีกครั้งของเขา ซึ่งการกลับมาหนนี้ของฮงรังก็ได้กุมความลับสำคัญอะไรบางอย่างเอาไว้เช่นกัน รีวิวซีรี่ย์มาใหม่

 ซีรีส์ที่ผสมผสานเรื่องราวหลากแนวครบรส ทั้งคอเมดี้ แอ็กชั่น สืบสวนอาชญากรรม และความรัก บอกเล่าเรื่องราวของเหล่าอดีตนักกีฬาเจ้าของเหรียญรางวัลซึ่งผันตัวมาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต่อสู้ในโลกที่เต็มไปด้วยอาชญากร เกิดเป็นการรวมตัวเพื่อจัดตั้งทีมเฉพาะกิจ บอกเล่าถึงเรื่องราวของ “ยุนดงจู” ชื่อของเขาถูกตั้งตามกวีผู้สูงส่ง แต่ดงจูกลับใช้ชีวิตตรงข้ามกับชื่อด้วยการมีเรื่องชกต่อยที่โรงเรียนเป็นประจำ ประสบการณ์จากการต่อสู้ทำให้ดงจูได้เรียนรู้การต่อยมวยอย่างจริงจัง ก่อนจะประสบความสำเร็จในฐานะนักมวยอาชีพและคว้าเหรียญทองมาได้ในท้ายที่สุด โชคไม่ดีที่ช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์ของเขาต้องพังทลายลงเมื่อเขาถูกไล่ออกจากทีมอย่างไม่เป็นธรรม ดงจูเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งเมื่อได้รับโอกาสให้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านการคัดเลือกแบบพิเศษ เส้นทางการเป็นตำรวจของเขาไม่ได้ราบรื่นเหมือนสมัยเป็นนักมวยอาชีพ แต่ถึงอย่างนั้น การทำงานก็ทำให้ดงจูก็ได้พบกับจีฮันนาและตกหลุมรักเธอเข้าอย่างจัง นักแสดงสาวขวัญใจผู้ชม คิมโซฮยอน รับบท “จีฮันนา” อดีตนักกีฬายิงปืนซึ่งผันตัวมาเป็นตำรวจ เธอเป็นอัจฉริยะนักแม่นปืนมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ครองตำแหน่งแชมป์โลกด้วยทักษะอันแม่นยำและได้รับการยกย่องจากแฟนจำนวนมาก แต่ยิ่งมีฐานแฟนคลับมากขึ้น ก็ยิ่งมีกลุ่มคนที่ไม่ประสงค์ดีกับเธอมากขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อคำวิจารณ์หลั่งไหลเข้ามาและความเข้าใจผิดสะสมขึ้นเรื่อยๆ ฮันนาจึงค่อยๆ ปิดตัวเองจากโลกภายนอก อุปสรรคที่เจอทำให้เธอไม่สามารถจดจ่อในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในอาชีพได้ สภาวะที่เกิดจากความเครียดทำให้เธอจำเป็นต้องเกษียณตัวเองจากอาชีพนักกีฬายิงปืนที่เคยรุ่งโรจน์ เธอสมัครเข้าโครงการคัดเลือกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความฝันที่อยากจะเป็นตำรวจตามรอยพ่อ ฮันนาดีใจที่ผ่านการคัดเลือกเข้าทีมเฉพาะกิจ แม้ว่าจะต้องทำงานกับเพื่อนร่วมทีมอย่างดงจู ซึ่งคลั่งไคล้เธออย่างมาก และจงฮยอน แฟนเก่าของเธอ

เรื่องราวของคังแจอิน เป็นผู้นำทีมออกแบบที่อายุยังน้อยแห่งวายแอลกรุ๊ป เธอมาจากตระกูลที่มั่นคั่ง และแต่งงานกับฮวังกีชาน ผู้อำนวยการในบริษัทที่เธอทำงานอยู่ ท่ามกลางชีวิตที่ใคร ๆ ต่างก็อิจฉากเธอ แต่หารู้ไม่ว่าชีวิตคู่ของพวกเขาเต็มไปด้วยแนวคิดและความทะเยอทะยานคนละขั้วกันอย่างสิ้นเชิง กระทั่งมีเหตุการณ์ที่เปลี่ยนความคิดของเธอไปอย่างสิ้นเชิง และทำให้มาพัวพันกับ คิมโดยอน ศัลยแพทย์ทรวงอกที่แสนอบอุ่น แต่ความสูญเสียครั้งใหญ่อย่างกะทันหัน ทำให้เขาแปรเปลี่ยนทิศทางชีวิตและในใจเป็นไปด้วยไฟแค้น  รีวิวซีรี่ย์มาใหม่

เรื่องราวหลังจากความสำเร็จของ Weak Hero Class 1 (นักเรียนดีเดือด รุ่นที่ 1) ซึ่งเล่าถึงเรื่องราวของ ยอนชีอึน (รับบทโดย พัคจีฮุน) นักเรียนมัธยมปลายที่เคยสนใจเพียงเรื่องของตัวเองและการเรียนเท่านั้น จนกระทั่งต่อมาชีอึนได้รู้จักและต่อสู้เคียงข้างเพื่อนรัก แล้วจบลงด้วยการสูญเสียพวกเขาไปในท้ายที่สุด  Weak Hero Class 2 (นักเรียนดีเดือด รุ่นที่ 2) จะพาไปติดตามบทเรียนครั้งใหม่ เมื่อชีอึนย้ายไปโรงเรียนแห่งใหม่ด้วยจิตใจที่บอบช้ำและอดีตอันหนักอึ้ง และยังต้องเผชิญกับความรุนแรงที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม และที่โรงเรียนแห่งใหม่นี้ ชีอึนจะได้พบกับเพื่อนใหม่อย่าง พัคฮูมิน (รับบทโดย รยออุน), ซอจุนแท (รับบทโดย ชเวมินยอง) และ โกฮยอนแท็ก (รับบทโดย อีมินแจ) รวมถึงเผชิญหน้ากับศัตรูอย่าง ชเวฮโยมัน (รับบทโดย ยูซูบิน), นาแพ็กจิน (รับบทโดย แบนารา) และ กึมซองเจ (รับบทโดย อีจุนยอง)   พบกับซีรีส์สุดระทึก พร้อมเหล่านักแสดงวัยรุ่นที่เปี่ยมด้วยพลังดีเดือด ซึ่งจะพาผู้ชมไปค้นพบอีกด้านของชีวิตวัยรุ่นมัธยมปลาย กับมิตรภาพของเพื่อนที่พร้อมยืนหยัดเคียงข้างและเติบโตไปด้วยกันในซีรีส์ Weak Hero Class 2 (นักเรียนดีเดือด รุ่นที่ 2) ทาง…

ซีรีส์ Adolescence เป็นลิมิเต็ดซีรีส์ขนาดสั้น เพียงแค่ 4 ตอน ที่เล่าเรื่องราวของ เจมี (นำแสดงโดย โอเวน คูเปอร์) เยาวชนวัย 13 ปีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกบ้านจับกุมตัวโดยละม่อม เพราะเขาคือผู้ต้องสงสัยเพียงคนเดียวที่ก่อเหตุฆาตกรรมเด็กหญิงวัยเดียวกันที่เป็นเพื่อนร่วมสถาบัน โดยที่ซีรีส์เรื่องดังกล่าวจะเป็นการเล่าด้วยการใช้เทคนิคถ่ายทอดในลักษณะ One Shot หรือ Long Take ที่เป็นเล่าเรื่องแบบยาว ๆ ไม่มีการตัดต่อหรือสั่งคัทตลอดทั้งตอน ผู้จัดซีรีส์เรื่องนี้ยังได้อธิบายต่อด้วยว่า ปัจจัยหลักในการก่อเหตุในหมู่เยาวชนสมัยนี้ ก็คือความเกลียดชังและการบุลลี่ผ่านทางโลกออนไลน์เป็นหลัก โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นจากสัญลักษณ์เชิงซ้อนต่าง ๆ ที่คนต่างรุ่นต่างเจเนอเรชันไม่ค่อยจะเข้าใจ แต่คนในวัยเดียวกันจะทราบกันดีว่าเป็นการกลั่นแกล้งให้เสียความรู้สึกและเสียศักดิ์ศรี ที่ทำให้เยาวชนรู้สึกอับอายต่อสังคมโดยรวม ในช่วงวัยที่เพื่อนฝูงคือบุคคลที่บทบาทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และการเป็นที่ยอมรับของสังคมก็เป็นหนึ่งในจุดประสงค์ที่เด็ก ๆ อยากจะไขว่คว้าไปถึง รีวิวซีรี่ย์มาใหม่ ดังนั้นในซีรีส์ Adolescence เรื่องนี้จึงได้ผ่านการศึกษาค้นคว้ารายงานและงานวิจัยต่าง ๆ เกี่ยวกับพฤติกรรมวัยรุ่นในสังคมปัจจุบันอย่างถลำลึก เพื่อหวังจะหยิบนำปัญหาของเยาวชนขึ้นมาเป็นกระบอกเสียงให้ดังยิ่งขึ้น และทำให้คนวัยอื่น ๆ ได้เข้าใจพวกเขาได้มากยิ่งขึ้น พร้อมตระหนักถึงปัญหาอาชญกรวัยเด็ก ที่พบว่าในทุกวันนี้ผู้ก่อเหตุอายุน้อยยังมีอัตราที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วงมากขึ้นด้วย

Ski In to Love ทะยานสกีสู่รัก เล่าเรื่องราวของ เว่ยจือ นักวาดการ์ตูนผู้ถูกทำลายเส้นทางความฝัน และถูกยึดนามปากกาจากบริษัท ทำให้เธอรู้สึกหมดหวังในเส้นทางสายอาชีพทว่าเธอกลับรู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างหลังจากรับชมคลิปการเล่นสโนว์บอร์ด เธอจึงมุ่งมั่นในการเรียนรู้และเริ่มต้นเล่นสโนว์บอร์ด นั่นทำให้เธอพบกับ ซ่านฉง อดีตนักกีฬาสโนว์บอร์ดที่ผันตัวมาเป็นโค้ช ทั้งสองต่างเติมเต็มแรงบันดาลใจของกันและกัน ซึ่งนำไปสู่เส้นทางแห่งความรักและความฝันอันแสนพิเศษ โดนตกแบบเต็ม ๆ หัวใจในพล็อตเนื้อหาของซีรีส์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความรอมคอมแทบจะตลอดระยะเวลาของการดำเนินเนื้อหา โดยมีการวางปมปัญหาหลักของพระนางแบบชัดเจนตั้งแต่เริ่มแรก เมื่อฝั่งนางเอกถูกทำลายชื่อเสียงและยึดนามปากกาจากบริษัท ด้านพระเอกผันตัวออกมาเป็นโค้ชเนื่องจากเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างการเล่นสกี ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้กลายเป็นจุดเชื่อมโยงในการพบกันของพระนางที่วางเนื้อหาได้ค่อนข้างมีความสัมพันธ์และเป็นเหตุเป็นผลกัน แม้ในระหว่างการดำเนินเนื้อหาเราจะรู้สึกว่าปมที่กล่าวไปอาจจะไม่ได้เน้นหนักและค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ทำให้มีความไม่กระชับเกิดขึ้นมาสักเล็กน้อย แต่ความสนุกในระหว่างการดำเนินเนื้อหามีมากล้นเหลือ เพราะคาแรคเตอร์ของพระนางและนักแสดงคนอื่น ๆ เสริมเคมีความกลมกล่อมได้ลงตัวมาก ด้วยความเป็นซีรีส์ยุคปัจจุบันเรารู้สึกว่าสามารถเติมแต่งบทบาทให้ออกมามีสีสันและเข้ากับยุคสมัยได้โดนใจผู้ชมค่อนข้างง่าย การแสดงออกของนางเอกจะมีความอ้อน ๆ น่ารัก สดใส มีความมุ่งมั่นในเป้าหมายของตนเอง มารวมกับพระเอกซึ่งมีความดุ ตรงไปตรงมา แต่ภายในจิตใจเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ทำให้เคมีของทั้งสองบทบาทผสมผสานกันแบบถูกต้องมาก ๆ ยิ่งไปกว่านั้นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขายังเติมความหวานแบบทีละนิดละหน่อยแต่พาเราคล้อยตามไปกับความน่ารักอบอุ่นและยิ้มตามอยู่ในทุก ๆ ตอน